นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ปริมาณข้อมูล ที่ใช้ในการประมวลผลต่อ 1 รอบสัญญาณนาฬิกามีจำนวนมากขึ้น อย่างไม่มีที่สิ้นสุด การเปลี่ยนแปลงจาก 16-bit ในอดีตเมื่อ 10 ปีก่อนมา 32-bit ในปัจจุบัน และกำลังก้าวเข้าสู่โลก 64-bit ได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับโลกคอมพิวเตอร์ได้อย่างมากมาย ทั้งในด้านจำนวนข้อมูลที่ส่งต่อในระบบภายในที่มีจำนวนมากขึ้นและความ เหมือนจริงในการทำงานด้านมัลติมีเดียต่าง ๆ มากมาย ยังผลให้ ข้อมูลที่เข้าสู่ กระบวนการประมวลผลนั้นมากตามไปด้วย ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องในส่วนของความเร็วใน การประมวลผลแต่ประการใด เป็นเพียงเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูลต่อชุดในการ ประมวลต่อครั้งเท่านั้น
จากที่ได้กล่าวไปแล้วนั้นว่าความแตกต่างใน ทั้งสอง ไม่ได้แตกต่างกันที่ความเร็ว ขยายความให้เข้าใจได้ง่ายคือ สัญญาณนาฬิกายังคงมีความเร็วเท่าเดิม แต่ความหนาแน่นของข้อมูลต่อชุดคำ สั่งมีมากขึ้นนั้น เราอาศัยการเปรียบเทียบที่ memory addrees ระหว่าง 32-bit และ 64-bit โดยที่ 32-bit นั้นมี memory address ได้ 4Gbytes เท่านั้นแต่ใน 64-bit นั้น มี memory address ถึง 16 Ebytes (~17,179,869,184 Gbytes) ทำให้เกิดความได้เปรียบในด้านความเร็วในการทำ งานใน software ที่ต้องการการไหลของข้อมูลในปริมาณที่มาก ๆ เช่นการเล่นเกม, ระบบฐานข้อมูลใหญ่ ๆ ,ระบบที่ต้องการความละเอียดต่อการ ประมวลผลมาก ๆ เช่นการ Simulate, Render,Retouch, Lenear Editing ฯลฯ แต่หากเป็น software โดยทั่วไปแล้ว แทบจะไม่เห็น
ความแตกต่าง แต่อย่างใด “ปัญหา ของระบบ 32-bit ที่ทำให้เกิด 64-bit ขึ้นมาในปัจจุบันคือ ขนาดของหน่วยความจำหลัก (RAM Memory) มีจำกัดเกินกว่าจะยอมรับได้แล้ว”
CPU 32-bit นั้นมีความต้องหน่วยความจำหลักได้มากสุดที่ 4Gbytes เท่านั้น แล้ว 4Gbytesมาจากไหนหล่ะ ?
นั้นหมายความว่า CPU 64-bit นั้นมีความต้องหน่วยความจำหลักได้มากสุดที่ ….. 16 Ebytes * (~17,179,869,184 Gbytes) นั้นเอง ซึ่งมาจาก 2 ยกกำลัง 64หรือมีขนาดที่ 16 Ebytes ของหน่วยความจำหลัก (RAM memory)* Ebytes อ่านว่า เอ๊กซาไบต์ (Exabyte)2 กำลัง 32 = 4,294,967,296 bytes
=~ 4 Gbytes
2 กำลัง 64 = 18,446,744,073,709,551,616 bytes
= ~ 16 Ebytes หรือ 17,179,869,184 Gbytes
การประมวลผลจริง ๆ แล้วไม่แตกต่างกันในเชิงความเร็วมากนัก ดังที่ได้กล่าว แล้วแต่จะแตกต่างนั้นอยู่ที่ความหน่าแน่นของข้อมูลที่ประมวลผลต่อสัญญาณ นาฬิกามีมากขึ้นตัวอย่าง เช่น คุณชมภาพยนต์ในจอคอมพิวเตอร์จากแผ่น VCD (เทียบได้กับ 32-bit) และ DVD (เทียบได้กับ 64-bit) ถ้าคุณได้รับชมผ่าน VCD ในจอคอมพิวเตอร์คุณได้ภาพที่เล็กและไม่ละเอียด เท่ากับ DVD ที่มีภาพที่ละเอียดกว่า และยังขยายขนาดของภาพให้ Full Srceen ได้โดยภาพไม่แตกเหมือน VCD คุณเล่นเกม ภาพที่ได้จะมีมิติมากขึ้นกว่าเดิม แสงเงาต่าง ๆ จะสมจริงมากขึ้นแต่ไม่ ได้ทำให้การประมวลเร็วขึ้นแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขึ้นอยู่กับ Software ที่นำมาทำงานร่วมกับ CPU 64-bit ด้วยว่าสนับสนุนการทำงานนี้หรือไม่ มิเช่นนั้นก็ไม่สามารถใช้งาน CPU 64-bit ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังที่ตั้งใจไว้ สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า 64-bit เป็นการทำให้การประมวลผลต่อครั้งมีความละเอียดมากขึ้น ไม่ใช่เร็วมากขึ้น อย่างที่ หลาย ๆ คนเข้าใจ แต่การเร่งความเร็วในการประมวลผล น่าจะเป็นใน ส่วนของ Dual Core CPU มากกว่า แต่การทำให้ Dual Core CPU สามารถใช้งาน ได้ดีและเต็มประสิทธิภาพนั้น จำเป็นอย่างมากที่ software ที่เราใช้ต้องสนับสนุนระบบ Multiprocessor ด้วยเช่นกัน
สรุป คือ window 32 bit กับ 64 bit ไว้ว่า มันก็เหมือนถนน 2 เลน กับ ถนน 4 เลน ต่าง กันที่ถนน 4 เลนทำให้รถวิ่งได้มากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่ารถจะวิ่งได้เร็วขึ้น
บทความดีๆจาก comengineer